Tuesday, August 25, 2009

Executions in Thailand after six year break

Drug dealers put to death: Bangkok Post

Writer: KING-OUA LAOHONG
Published: 25/08/2009 at 12:00 AM
Newspaper section: News

Two convicted drug traffickers at Bang Khwang prison have been executed by lethal injection.

Bundit Jaroenwanit, 45, and Jirawat Poompreuk, 52, yesterday became the country's fifth and sixth people to be executed by lethal injection, which replaced death by shooting in 2003.

The atmosphere at Bang Khwang prison in Nonthaburi was subdued yesterday when the two learned they were about to die.

They were given 60 minutes to call or write to their loved ones. They were then offered a last meal and a chance to listen to a sermon from a monk invited from Wat Bang Praek Tai.

They were blindfolded and given flowers, candles and incense sticks before being taken to the execution chamber.

The two, their legs manacled, turned their faces towards the temple as they were laid out on beds.

They received three injections. The first was a sedative, the second a muscle relaxant and the third a drug that stops the heart beating.

See link "Bang Kwang 24th August"

แถลงการณ์

เรื่อง ขอคัดค้านโทษประหารชีวิตเพราะขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน

ตามที่ กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการประหารชีวิตนักโทษ 2 คน ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา นั้น สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มีความเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

ประการแรก เนื่องมาจากว่า สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติโดยเสียงข้างมากส่วนใหญ่ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2550 และลงมติอีกครั้งเช่นเดียวกันในเดือนธันวาคม ปี 2551 ว่า ให้มีการใช้มาตรการชลอหรือขยายช่วงเวลาการประหารชีวิตออกไป เพื่อมิให้มีการลงโทษประหารชีวิตจริง

ประการ ที่สอง คือว่า ทุกประเทศทั่วโลกต่างแสดงออกถึงการเย้ยหยันการลงโทษประหารชีวิต เพราะ ถือว่าการประหารชีวิตเป็นโทษที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของความเป็น มนุษย์ ซึ่งหมายถึงสิทธิในการมีชีวิตอยู่รอดและมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต นั่นเอง

ประการ ที่สาม กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กำหนดให้ประเทศที่ยังไม่ยกเลิกโทษประหารชีวิต จะใช้การประหารชีวิตได้ ในกรณีความผิดที่มีลักษณะอุกฉกรรจ์เท่านั้น ซึ่ง โทษสำหรับความผิดอุกฉกรรจ์ไม่รวมความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2548 ผู้ แทนประเทศไทยได้รายงานในที่ประชุม ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ตามพันธกรณีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ที่ประเทศไทยได้เข้าผูกพันไว้ว่า คดียาเสพติด ในประเทศไทยนั้น เป็นคดีอุกฉกรรจ์ จึงเป็นการขัดแย้งกับหลักการของกติกาฯดังกล่าว

ประการ สุดท้าย การลงโทษประหารชีวิต ไม่สามารถยับยั้งอาชญกรรมและการกระทำผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติดอย่างได้ผล เมื่อเทียบกับการลงโทษด้วยมาตรการอื่น

สสส.จึง ขอคัดค้านโทษประหารชีวิต เพราะ ถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมและย่ำยีศักดิ์ศรีของมนุษย์ ซึ่งไม่สมควรมีโทษนี้ ต่อไปในประเทศที่มีอารยะ และควรเปลี่ยนเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตตลอดไป แทนการลงโทษประหารชีวิต

ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2552

ผู้แถลง ดร.แดนทอง บรีน ปะธานสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.)


Statement by UCL
It is wrong that Thailand has executed two men on 24th August 2009:
It ignores the majority vote of the United Nations General Assembly in December 2007 and again in December 2008 in favour of a universal moratorium on the death penalty.
It flouts the greater certainty expressed world wide that the death penalty is a transgression of the most basic of all human rights, the right to life.
It goes against the interpretation of the International Covenant on Civil and Political Rights expressed to representatives of the Royal Thai government by the UN Human Rights Committee, on 28th July 2003, that drug offenses did not constitute a crime subject to Capital Punishment within the terms of the Covenant which it has ratified.
The execution of the two with a mere one hour notice is a flagrant transgression of the procedures established by the UN for the enactment of Capital Punishment.
It is a useless measure of no greater consequence than other punishment in the fight against drugs.
It is a cruel and inhumane punishment, with no place in a civilised state.
It is counter to the Buddhist belief in the sanctity of life
Danthong Breen
Union for Civil Liberty, Thailand

No comments: